วันพุธที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2553

ความงามในความเงียบสงบ ณ เชียงคาน







คําคมจากคนในประวัติศาสตร์


ไม่กล้า ก็ไม่มีวันเดินหน้า
Nothing ventured, nothing gained.

วิลเลี่ยม เช็คสเปียร์

เพียงเมื่อท่านหยุดก้าว ท่านก็เริ่มถอยหลังแล้ว
When you stop advancing, you''''ve already begun to retreat.

ดร.เทียม โชควัฒนา

คนเราไม่มีใครล้มเหลว มีแต่ล้มเลิกต่างหาก
There are no failures, only people who have given up.

นิรนาม


ผมเป็นคนเดินช้า แต่ผมไม่เคยเดินถอยหลัง
I am a slow walker, but I never walk backwards.
อับราฮัม ลินคอล์น


หนทางไกลนับหมื่นลี้ ต้องเริ่มต้นด้วยก้าวแรก
A joumey of a thousand miles must begin with a single step.
เล่าจื๊อ

อย่ากลัวที่จะก้าวไปช้า ๆ จงกลัวที่จะอยู่นิ่งเฉย
Do not be afraid of going slowly, be afraid only of standing still.

ภาษิตจีน

ถ้าไม่หาทาง ก็ต้องสร้างมันขึ้นมา
We will either find a way or make one.
ฮานิบาล

อย่าคิดว่าคุณจะเดิน เดินไปเลย
Don''''t just think you''''ll wall, WALK.

ปรเมศวร์ มินศิริ

คนเราแก้อดีตไม่ได้ แต่อาจเปลี่ยนอนาคตได้
We can''''t correct the past, But we might change the future.

วรินทร์ เลียววาริณ

การเริ่มต้นเป็นเรื่องยาก แต่การก้าวต่อไปเป็นเรื่องยากกว่า
Getting started is hard, but the next step is harder.

ถกลเกียรติ วีรวรรณ


อย่ากลัวล้มทั้งๆที่ยังไม่ได้เริ่มเดิน
Don''''t think that you''''re gonna lose when you don''''t even start
ณัฐจิระ ฮอนดา

ความผิดพลาดในอดีต คือบทเรียนสำหรับในอตาคต
The falling of yesterday are the learning of tommorrow.
โรเบอร์โต บักจิโอ

แม้แต่ปลา ต้องว่ายทวนน้ำเพื่ออยู่รอด
Fish swim against the tide to survive.
นักปราชญ์


ทางเดียวที่จะถึงเส้นชัย คือก้าวต่อไปข้างหน้า
The only way to reach the goal is moving forward.
นักกีฬาสมัครเล่น


อย่ากลัวที่จะก้าวยาว ๆ เมื่อต้องข้ามอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่
Don''''t be afraid to take a big step…you can''''t cross a chasm in two small
jumps.
เดวิด ลอยด์ จอร์จ


จับจ้องที่จุดหมาย ไม่ใช่ที่อุปสรรค
One should keep one''''s eyes on one''''s destination, not on where one stumbled.
สุภาษิตไนจีเรีย

ความล้มเหลวที่สุด คือการไม่กล้าแม้แต่จะลองทำ
เซอเรน คีร์เคอกอร์

ถ้าเดินตามรอยเท้าคนอื่น ก็ไม่มีรอยเท้าเป็นของตนเอง
To dare is to lose one''''s footing momentarily. Not to dare is to lose

oneself.
มูลเรลสตรอด

วันจันทร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2553

เราวิ่งตามอะไรกัน...ในชีวิต



มีเรื่องเล่าว่า... มีพระองค์หนึ่ง...ชอบทำอะไรแปลกๆ...
วันหนึ่ง...พวกกรุงเทพฯ...เอากฐินไปทอดที่วัด...

จัดงานกันใหญ่โต...มีหนัง...มีลิเก...มีดนตรี...ผู้คนแห่กันมามืดฟ้ามัวดิน...
ก่อนทอดกฐิน..ผู้คนมารวมกันเต็มศาลา...
หลวงพ่อเรียกเด็กวัดมา...
บอกให้ไปเอาเนื้อจากโรงครัวมาก้อนหนึ่ง...แล้วเอาเชือกมาด้วย...
หลวงพ่อจัดการ...เอาเนื้อ...ผูกติดกับหลังหมา...
ผูกเสร็จ...ก็ปล่อยหมา ...
หมาเห็นเนื้ออยู่บนหลัง...ก็ไล่งับ...
พอหัวโดดงับ...ตัวก็ขยับหนี...
เพราะหมามันกัดหลังตัวเองไม่ถึง...
ยิ่งโดดงับเร็ว...ก้อนเนื้อก็หนีเร็ว...
โดดไม่หยุด...เนื้อก็หนีไม่หยุด...น่าสงสารหมามาก...

หมาโดดอยู่นาน...งับเท่าไหร่...เนื้อก็ไม่เข้าปากสักที...
ผู้คนบนศาลา...พากันหัวเราะชอบใจ...
หัวเราะเยาะหมา...ว่าทำไมมันถึงโง่ยังงี้...
ไล่งับ...จะกินเนื้อ...ที่ตัวเองไม่มีทางไล่ตามทัน ตลอดชีวิต...

หลวงพ่อ...มองดูด้วยความสนุกสนานจนหนำใจแล้ว...
ก็แก้เชือกออกมากหลังหมา...
แล้วหันมาพูดกับญาติโยมว่า...


"มนุษย์เรา...มีความรู้สึกว่า...ตัวเองพร่อง...ตัวเองยังไม่เต็ม...
ต้องเติมตลอดเวลา...เติมไม่หยุด...เพื่อให้ตัวเองเต็ม...

อยากสวย...อยากทันสมัย...
ไปหาซื้อเสื้อผ้าที่สวยที่สุด...ทันสมัยที่สุดใส่...
ดีใจได้เดือนเดียว...มีรุ่นใหม่ออกมาอีกแล้ว...สวยกว่า...ทันสมัยกว่า...
อยากได้โทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่...
ซื้อเสร็จ ๓ เดือน...รุ่นใหม่ก็โผล่มาอีกแล้ว...

ซื้อคอมพิวเตอร์ทันสมัยที่สุด...
๒ เดือนต่อมา...มีรุ่นใหม่กว่าออกมา...ของเราตกรุ่น...

ซื้อรถเบนซ์...ทันสมัยที่สุด...แพงมาก...
ขับได้ ๖ เดือน...มีรุ่นใหม่ออกมาอีกแล้ว...
ทันสมัยกว่า...แพงกว่า...ของเรากลายเป็นเชย...

เราต้องก้มหน้าก้มตา...ทำงานทั้งวัน ทั้งคืน...หาเงินมา...
เพื่อมาทำให้ตัวเองทันสมัย...
ซื้อเสื้อผ้าใหม่...มือถือใหม่...คอมพิวเตอร์ใหม่...รถยนต์คันใหม่...
เหน็ดเหนื่อยแสนสาหัส...
เพื่อไม่ให้ตัวเองตกรุ่น...

ปัจจุบัน...
เรากำลังไล่งับความทันสมัย...เหมือนหมาที่ไล่งับเนื้อบนหลังของมัน...
ทั้งที่รู้ว่า...ต่อให้ไล่งับทั้งชีวิต...ก็ไม่มีทางตามทัน...
น่าสงสารไหมโยม...."


คนเต็มศาลา...เมื่อกี้หัวเราะครึกครื้น...
ด่าว่า...หมามันโง่...
ตอนนี้เงียบสนิท...เหมือนไม่มีคนอยู่...


ไม่รู้ว่า...กำลังสงสารหมา...
หรือ...กำลังทบทวนความโง่...ตัวเอง

ใช้ชีวิตให้มีสุข





1. ศัตรูที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ตัวเราเอง

2. ความล้มเหลวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ความอวดดี

3. การกระทำที่โง่เขลาที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การหลอกลวง

4. สิ่งที่แสนสาหัสที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ความอิจฉาริษยา

5. ความผิดพลาดมหันต์ที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การยอมแพ้ตัวเอง

6. สิ่งที่เป็นอกุศลที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การหลอกตัวเอง

7. สิ่งที่น่าสังเวชที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ
ความถดถอยของตัวเอง

8. สิ่งที่น่าสรรเสริญที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ
ความอุตสาหะ วิริยะ

9. ความล้มละลายที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ความสิ้นหวัง

10. ทรัพย์สมบัติที่มีค่ามากที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ สุขภาพที่สมบูรณ์

11. หนี้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ
หนี้บุญคุณ

12. ของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การให้อภัยและความเมตตากรุณา

13. ข้อบกพร่องที่ใหญ่หลวงที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การมองโลกในแง่ร้ายและไร้เหตุผล

14. สิ่งที่ทำให้อิ่มอกอิ่มใจที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การให้ทาน

วันจันทร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2553